ประวัติ ต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติผู้มากความสามารถ ตำนานความบันเทิงหลายแขนง ทั้งนักร้องวงดนตรี พิธีกร นักแสดง ผู้จัดละคร พาย้อนวันวานชวนคิดถึง จากไปแล้วหลังมะเร็งปอดคร่าชีวิตในวัย 77 ปี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์
เป็นเรื่องเศร้าอย่างยิ่งของวงการบันเทิง หลังสูญเสียนักแสดงอาวุโสมากฝีมืออย่าง อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ซึ่งเสียชีวิตในวัย 77 ปี หลังจากมะเร็งปอดระยะที่ 4 ที่เคยหายดีแล้วกลับมาลุกลามอีกครั้ง ทำให้ต้องเข้าทำคีโมเพื่อรักษา ซึ่งผลของการทำคีโมทำให้ อาต้อย รับประทานอาหารไม่ค่อยได้จนร่างกายซูบผอม กระทั่งวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 04.42 น. อาต้อยเสียชีวิตอย่างสงบ
ทั้งนี้ อาต้อย เศรษฐา เป็นบุคคลที่มีความสามารถหลากหลายด้าน สร้างสรรค์ผลงานในวงการบันเทิงไว้มากมาย กระปุกดอทคอม จะพาไปย้อนประวัติส่วนตัว กระทั่งเป็นนักร้องเข้าวงการบันเทิง จนประสบความสำเร็จทุกด้านในชีวิต
ประวัติ เศรษฐา ศิระฉายา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์
เศรษฐา ศิระฉายา หรือ ต้อย เกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2487 ในอดีตเคยสมรสกับแอร์โฮสเตส ก่อนจะเลิกรากันไป และปัจจุบันสมรสกับ อรัญญา นามวงศ์ นักแสดงอาวุโสและผู้จัดละคร ซึ่งเป็นนางเอกดังในยุคนั้น มีบุตรสาว 1 คน ชื่อ อีฟ พุทธิดา ด้านการศึกษา ต้อย เศรษฐา เป็นคนเรียนเก่งมาก มีนิสัยชอบไขว่คว้าหาความรู้ และไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง และประสบความสำเร็จด้านการศึกษาถึงปริญญาเอก - ชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนวัดบวรนิเวศ - ระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ หลักสูตรโครงการพิเศษ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง - ระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี - ระดับปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
เส้นทางสู่วงการบันเทิง
ภาพาจาก เฟซบุ๊ก Vinyl station สถานีคนรักแผ่นเสียง
ต้อย เศรษฐา เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุประมาณ 16 ปี เริ่มจากไปทำงานขนเครื่องดนตรีในวงดนตรี ตามคำชักชวนของน้าชาย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ซึ่งเป็นอดีตพระเอกภาพยนตร์ชื่อดัง จากนั้นได้ฝึกหัดทักษะด้านดนตรีแบบครูพักลักจำ กระทั่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องตามสถานบันเทิงต่าง ๆ เช่น ตั้งวงหลุยส์กีต้าร์เกิร์ล และมีการรวมตัวกับเพื่อน ๆ นักดนตรีตั้งวงดนตรี Holiday J-3 ร่วมกับ วินัย พันธุรักษ์, พิชัย ทองเนียม, อนุสรณ์ พัฒนกุล และสุเมธ อินทรสูต ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Joint Reaction และเปลี่ยนอีกครั้งในชื่อ ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The Impossibles) ซึ่งเป็นการ์ตูนชื่อดังของอเมริกาในสมัยนั้น โดยมี ต้อย เศรษฐา เป็นนักร้องนำ ต่อมาในปี 2512 ดิอิมพอสซิเบิ้ล สามารถคว้าถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศ การประกวดวงสตริงคอมโบ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลให้เริ่มเป็นที่นิยมและเป็นจุดเปลี่ยนให้ ต้อย เศรษฐา เข้ามาสัมผัสโลกภาพยนตร์เป็นครั้งแรก เมื่อเขาและเพื่อน ๆ ได้รับการทาบทามจาก เปี๊ยก โปสเตอร์ ให้มาร่วมบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง โทน ในปี 2513 ความเก่งไม่ธรรมดา ทำให้วง ดิอิมพอสซิเบิ้ล ยังคงชนะเลิศการประกวดวงสตริงคอมโบอีก 2 ครั้งติดต่อกัน หลังจากนั้นและได้บรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ ดวง (ปี 2514), สวนสน (ปี 2514), ระเริงชล (ปี 2515), ตัดเหลี่ยมเพชร (2ปี 518) และอีกมากมาย กลายเป็นวงที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในปี 2518 ภายหลังกลับมาจากการไปทัวร์ต่างประเทศ ต้อย เศรษฐา ได้รับการชักชวนจาก จุรี โอศิริ ให้มาแสดงภาพยนตร์อย่างจริงจังครั้งแรกเรื่อง ฝ้ายแกมแพร (ปี 2518) แม้จะเป็นหนังเรื่องแรก แต่ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครอง ต่อมาปี 2519 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ ต้อย เศรษฐา จึงก้าวเข้ามาทำงานบันเทิงด้านอื่น ๆ มีบทบาทโดดเด่นทั้งการเป็นพิธีกรและนักแสดง นับเป็นดารายอดฝีมือคนหนึ่งซึ่งสามารถรับบทบาทได้หลากหลาย ทั้งบทดี บทร้าย บทตลก ทำให้มีผลงานออกต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก เรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ ชื่นรัก (ปี 2522) ที่ได้รับบทพระเอกคู่กับ อรัญญา นามวงศ์ นางเอกชื่อดัง และเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์รักของทั้งคู่ จนกลายเป็นคู่ชีวิตกันในเวลาต่อมา
ผลงานวงการบันเทิง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์
ต้อย เศรษฐา มีผลงานแสดงละครโททัศน์ ประมาณ 104 เรื่อง ผลงานแสดงภาพยนตร์ประมาณ 154 เรื่อง ผลงานกำกับภาพยนตร์ 7 เรื่อง และการทำหน้าที่พิธีกร 14 รายการ และผลงานเพลงที่ขึ้นคอนเสิร์ตอีกจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน และปัจจุบันยังเป็นประธานมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส
ภาพจาก Instagram yvessirachaya
Comentários